วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

เซ็ทแรกที่จริงจังในการซื้อ ^^ Chanel ^^

ประเดิมการรีวิวครั้งแรกด้วยสุดที่รักของเรากันดีก่า
เซ็ทนี้ เอ๊ะ!! จริงๆมันไม่ใช่เซ็ทอ่ะนะ
เป็นการซื้อรวมๆกันหลายอย่างซะมากกว่า ก็มี 4 อย่างที่ไปสอยมา

((จำได้ว่าซื้อมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2008 กันเลย นานมั่กๆ))

พอดีว่าคุณแม่มาเยี่ยมเลยลากแม่ไปชอปที่พารากอน ที่บูท Chanel
(คือจริงๆ ที่เลือก Chanel ก็เพราะว่าพี่ที่เคยเป็นแอร์ JAL
แนะนำมาว่ารองพื้นของChanel อ่ะ เนียนมากๆ ก็เลยลองของซะเลย)

ตอนแรกที่เดินเข้าไป BA ก็มองแบบจิกๆนิด
แต่ก็มาต้อนรับตามหน้าที่ก็บอกพี่เค้าไปว่าอยากได้รองพื้น
มีตัวไหนแนะนำมั่ง เค้าก็เลยแนะนำ

Chanel Mat Lumiere long lasting luminous matte fluid makeup SPF 15




รีวิวตัวนี้ก่อนละกันนะค่อยเล่าต่อ

ก็ตัวนี้ก็คุณสมบัติทั่วไปใช้เป็นรองพื้นที่จะให้ความรู้สึกว่าเนียนไปกับใบหน้า
ใช้แล้วจะไม่รู้สึกหนักหน้า และติดทนนาน หน้าเด้งทั้งวัน

แต่อาจจะต้องมีการซับมันออกบ้าง คือ มันก็คงไม่สามารถกันหน้ามันได้ทั้งวันอ่ะนะ
แต่หลังซับแล้วหน้าจะเด้งเหมือนเดิม ใช้ได้ดีในอากาศร้อนๆ เหนอะๆ
คือ ไม่ขุย ไม่วอก ไม่เยิ้ม และไม่ละลายเมื่อเจอเหงื่อ

(เคยเจอบางยี่ห้อที่เจอเหงื่อแล้วผลลัพธ์ที่ออกมา คือ น้ำสีขาว)

ไม่เป็นตัวก่อสิว โดนน้ำแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น คือ ไม่เยิ้ม ไม่เปลี่ยนสี
ไม่เป็นน้ำสีขาวๆ ติดทนนานมากๆๆๆ

อันนี้คอนเฟริ์มเพราะว่าเคยแต่งหน้าโดยใช้ตัวนี้รองพื้นตั้งแต่ตี 5
กว่าจะล้างออกก็เกือบเที่ยงคืน แต่หน้ายังเด้งอยู่เลย

สีก็เนียนไปกับหน้ายังกะไม่ได้ใช้รองพื้น
การใช้ก็ไม่ต้องกดออกมามาก เพราะว่าใช้แค่ปั๊มเดียวก็ทั่วหน้าแล้ว

การล้างออกก็ควรจะล้างออกด้วย cleansing oil
เพราะ foam หรือ gel ล้างหน้านั้นล้างเนื้อครีมออกไม่หมด อาจทำให้เกิดสิวได้

ส่วนสนนราคาตอนที่ซื้อมา ราคาเต็มอยู่ที่ 1,650 บาท
ปริมาณ 30 ml
แต่ว่าโชคดีเว่อร์ๆที่ช่วงนั้น Chanel ร่วมลดราคากะพารากอน

!! ครั้งเดียวในรอบหลายยยยยยยปี !!

เลยได้ลด 10% ขวดนี้ใช้ได้ 8 - 10 เดือน ซึ่งเราถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มมากๆ

ตอนนี้เราก็ใช้มาขวดที่สองละ ก็คาดว่าคงจะใช้ต่อไปเรื่อยๆ

เพราะว่าเคยแพ้รองพื้น Shisedo แล้วสิวเห่อมากๆๆ เลยไม่กล้าลองหลายยี่ห้อ กลัวหน้าพัง

อ้อ!! เสริมอีกนิดว่ารองพื้นตัวนี้ใช้นานแล้วไม่เป็นตัวที่ทำให้มีสิว
มีข้อแนะนำนิดนึงว่าถ้าซื้อมาผิดเบอร์ ในกรณีที่ผิดไปเบอร์เดียว ก็ถือว่าไม่เป็นไร
สียังเนียนๆไปกับหน้า อาจจะคล้ำลง หรือ ขาวขึ้นนิดหน่อย
เค้าใช้สีที่เข้ากะสีผิวจริงเลยไม่มีปัญหาหน้าลอย

เวลาที่ใช้เสด ให้ใช้ไม้จิ้มฟันเกลี่ยเอาครีมในหัวปั๊มออกด้วย
ไม่งั้นหัวปั๊มจะตัน และมีเศษครีมที่แข็งตัวเหลือ


สถานที่ซื้อ แนะนำให้ดูว่ามีบัตรลดของที่ไหนบ้าง
แต่เท่าที่ดูมา King Power ถูกสุดแล้ว เราซื้อขวดที่ 3 (มากักตุนไว้) ในราคา 1,360 บาท
ถ้ามีบัตร King Power รู้สึกว่าจะได้ลดอีก 5% อีกอย่าง

คะแนน 10/10


อ่ะ ต่อกันที่บูท Chanel พี่เค้าถามว่าจะลองไหม เราก็บอกว่าลอง
BAก็เลยเช็ดหน้า ลงรองพื้นและแต่งหน้าให้ ก็เลยได้มาอีกสามอย่าง

อย่างแรกเลย Irreelle blush silky cheek colour สี 20 Glamour

ปล. อันนี้ใช้มานานละ ก็เลยเหลือสภาพอย่างในรูป



อันนี้ขอบอกว่าสีสวย ติดทน
แต่ต้องมีเทคนิคในการใช้นิดหน่อย คือต้องยีๆ แปรงไปกะแก้ม

ไปชมตัวอย่างการใช้ได้ที่
Chanel silky cheek

ทาแล้วจะแอบมีชิมเมอร์เล็กๆ แต่ไม่เวอร์
ตัวนี้แอบมีข้อเสียกับแปรงที่มาในเคส เพราะว่าขนแปรงแข็ง และหยาบมาก

(ไม่คิดว่าจะหยาบขนาดนี้ T_T ยิ่งตอนที่ต้องยีขนแปรงกะแก้มนี่แอบเจ็บด้วย)

ราคาตัวนี้ก็จำได้รางๆ ว่า 1,950 บาท ปริมาณ 6.5 g ใช้ได้ประมาณ 10 เดือนถึง 1 ปี
สำหรับเราแล้วถือว่าราคาค่อนข้างแพง คืออาจจะซื้ออีกถ้ามีตังค์
แต่ตอนนี้มี blush ในสตอกเยอะมาก คาดว่าจะกำจัดให้หมดก่อนถึงจะซื้ออีก


คะแนน 7.5/10

-1 ราคาแพงไปนิดนุง
-1 ขนแปรงแข็งมาก
-0.5 แอบใช้ยาก คือถ้าไม่ได้ดูวิดิโอสาธิตวิธีใช้ ปัดแล้วสีจะไม่ค่อยออก

ชิ้นต่อมา Joues contraste powder blush



ตัวนี้เราซื้อสี 49 Luna มาเป็นชิมเมอร์ที่ทำให้หน้าดูมีมิติขึ้น (สีอื่นจะเป็น blush on)
ตัวนี้ใช้มานานมากกกกกก ยังไม่พร่องเลย

สำหรับคนที่ชอบชิมเมอร์จะชอบมาก เพราะมีชิมเมอร์วิ้งๆ
เป็นชิมเมอร์แบบผู้ดี ที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

การใช้ก็แตะนิดเดียวลงใต้ตาและปลายๆหางตา
(อันนี้พี่ BA ที่ MAC เซ็นทรัลชิดลมแนะนำเทคนิคมา)
ตัวนี้ใช้แปรงแตะได้เลย ไม่ต้องยี

ราคารู้สึกว่าจะเท่ากันกับ Irreelle blush silky cheek colour ที่1,950 บา
แต่ปริมาณน้อยกว่า มี 4 g แต่ใช้ได้นานมากก เพราะใช้เป็นไฮไลท์
นี่ใช้มาตั้งแต่มีนา 2008 ยังไม่พร่องไปเลย เลยถือว่าคุ้มราคา อีกนานเลยกว่าที่จะได้ซื้ออีก


คะแนน 9/10
-0.5 ราคาค่อนข้างสูงและปริมาณน้อย
-0.5 ใช้เป็นไฮไลท์ได้อย่างเดียว (ไม่ค่อยคุ้ม)

และอันสุดท้าย Poudre universelle libre natural finish loose powder



ตัวนี้เป็นแป้งฝุ่นที่ให้ความรู้สึกว่าไม่ต้องตบพัฟ หน้าก็เด้งได้

เพิ่งได้ยินมาว่าจะเวริ์คมากๆถ้าใช้คู่กัย fluid makeup base !!


ตัวนี้เนื้อบางเบา ไม่หนา ไม่หนัก ไม่เยิ้ม ไม่วอก ไม่เป็นตัวก่อสิว
แทบไม่ต้องทาทับหลายครั้ง คือในกรณีคนกลัวสิวจากการเติมหน้าอย่างเรา
ก็เลือกที่จะไม่เติมหน้าเลยระหว่างวัน ก็เห็นว่าตัวนี้เวริ์ค ไม่ต้องลงเพิ่ม

ตัวนี้กันหน้ามันได้ระยะนึง แต่หลังจากซับออกหน้าก็เด้งเหมือนเดิม
ตัวนี้โดนเหงื่อ โดนน้ำแล้วไม่เป็นไร หน้าเด้งเหมือนเดิม
ปริมาณที่ใช้ก็ไม่ต้องมาก ลงบางๆก็พอแล้ว หน้าจะดูใสๆ เป็นธรรมชาติ

ราคาตัวนี้อยู่ที่ 1,700 - 1,800 จำไม่ค่อยได้แล้ว ปริมาณ 30 g ใช้ได้ประมาณ 6 - 10 เดือน

(แล้วแต่ความถี่ของการแต่งหน้า )

ตัวนี้อยากได้อีกมากมาย แต่จากการไปเสาะแสวงหาของจริงราคาถูกจากทุกที่แล้วพบว่า
ราคาไม่ได้ต่างกะเคาเตอร์เมืองไทยเลย ก็เลยยังตัดใจซื้อไม่ได้สักที


คะแนน 9.5/10
-0.5 แอบหักคะแนนพัฟนิดนุง ว่ามันไม่นิ่มเท่าที่ควร

หลังจากแต่งหน้าเสด บอก BA ว่าเอา 4 ตัวนี้ BA ทำหน้าตกใจมาก
แทบจะเชิญทำบัตรสมาชิกไม่ทัน
ก็เลยให้แถมแต่งหน้าให้คุณแม่ด้วย รีวิวChanelก็ขอจบลงด้วยประการฉะนี้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น